บิ๊กโจแย้มเตรียมร่างกฏแข้งอาเซียนลุยไทยลีกให้ชัดเจน “บิ๊กโจ”พาทิศ ศุภะพงษ์ กระบอกเสียง ส.บอล แย้ม เตรียมตั้งคณะขึ้นมาร่างกฏแข้งอาเซียนที่จะเข้ามาหากินในไทยลีก 3 คน ปี 2019 ว่าจะต้องผ่านการเล่นทีมชาติตัวเองมากี่นัด ไม่ใช่ว่ามีสายเลือดผสมของบ้านเกิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังไม่เคยรับใช้ชาติเข้ามาค้าแข้งในเมืองไทย รวมไปถึงเรื่องของการโอนสัญชาติอีกด้วย
ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย บริษัท ไทยลีก จำกัด จัดประชุมร่วมกับ สโมสรสมาชิกที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระดับไทยลีก เพื่อวางแผนเกี่ยวกับการแข่งขันในฤดูกาล 2019 เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้บทสรุปว่าใช้โควตาอาเซียน ในซีซั่นหน้าถึง 3 คน จากการลงมติของสโมสรสมาชิก
อย่างไรก็ตามยังมีเสียงค้านที่ว่า หากนักเตะอาเซียนที่จะมาเล่นในไทยลีก ยังไม่เคยติดทีมชาติของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นลูกครึ่งเพื่อมาค้าแข้งในการโกยเงินบาทนั้น ลีกสูงสุดของเมืองไทยจะได้มูลค่าลิขสิทธิ์หรือภาพลักษณ์นั้นได้อย่างไร
ล่าสุด "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ โฆษกสมาคมฯ ได้ออกมาชี้แจงว่า "เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในการประชุมกับสโมสรสมาชิกครั้งที่ผ่านมา เราได้มีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพูด ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะตั้งคณะขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อร่างกฏของนักเตะอาเซียน ที่จะเข้ามาเล่นในไทยลีก ว่าจะต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง อาทิ ต้องติดทีมชาติของตัวเองมาแล้วเช่นไร หรือเรื่องของการโอนสัญชาติก็ต้องชัดเจนชัดกัน"
ทั้งนี้ นสพ.ฟุตบอลสยาม รายวัน เคยออกมาเขียนกฎของแข้งอาเซียนในไทยลีก 2018 เมื่อวันที่ 17 ม.ค.61 ว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยอาจจะตัดสิทธิ์คนที่ถือสัญชาติติมอร์ เลสเต แม้ว่าจะอยู่ในอาเซียนก็ตาม สาเหตุหลักเป็นเพราะว่า คณะกรรมการวินัย ของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เคยลงโทษสมาคมฟุตบอลติมอร์ เลสเต เกี่ยวกับนักเตะที่มีการปลอมแปลงเอกสารขึ้นมา และทั้งหมดไม่ใช่พลเมืองของประเทศดังกล่าว ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ก่อนเกมพบ ยูเออี ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ป้องกันเกี่ยวกับนักเตะที่ปลอมสัญชาติติมอร์ เลสเต ทั้งๆที่ไม่เคยไปเล่นหรือไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศดังกล่าว เข้ามาเล่นในโตโยต้า ไทยลีก 2018 ในปีนี้ หรือถ้าถือ 2 พาสปอร์ตที่มี ติมอร์ เลสเต ก็จะไม่ให้เล่นเช่นกัน
สำหรับประเทศที่อยู่ในโควตาอาเซียน คือ กัมพูชา, บรูไน, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ลาว, เวียดนาม, สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย ถ้าพ่อแม่เป็นคนจากประเทศที่กล่าวมาข้างต้นสามารถลงทะเบียนในโควต้าอาเซียนได้แบบไม่มีปัญหา
แต่ถ้าหากเป็นลูกครึ่งอาเซียนหรือถือ 2 สัญชาติ ตามกฏคือ ถ้าดีกรีติดทีมชาติในอาเซียน ก็ได้สิทธิ์ลงสนามในโควตาดังกล่าวได้เลย แต่ถ้ามีพาสปอร์ตของสัญชาติในอาเซียนถืออยู่ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ก่อนการแข่งขันนัดแรกของซีซั่น หรือต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนของประเทศนั้นๆ และหนังสือเดินทางของนักฟุตบอลในสัญชาติที่เป็นสมาชิกของเอเอฟซีหรือเอเอฟเอฟ หรือต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนของพ่อแม่ และใบแจ้งเกิดโดยได้รับรองจากประเทศนั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่งหลายสโมสรกำลังรอคำตอบว่า ติมอร์ เลสเต ยังเข้าข่ายในการโดนแบนเรื่องของตัวผู้เล่นหรือไม่ ไม่เช่นนั้นมีนักเตะหลายรายที่เล่นอยู่ในตางประเทศ แต่ใช้วีซ่าที่ 2 เป็นของชาติดังกล่าว รวมทั้งมีบางทีมที่เคยเข้าข่ายดึงผู้เล่นโอนสัญชาติ ทั้งๆที่ถือพาสปอร์ตในชาตินั้นไม่ถึง 5 ปี ดึงเข้ามาเล่นในไทยลีก 2018 ด้วยซ้ำ แต่กลับไม่ถูกลงโทษจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย