เปิดใจ "แวร์รัตติ" ที่เดียวในไทย ความฝันและความปวดร้าวที่ไม่กล้าพูดถึง “ถามอะไรก็ถามได้ แต่ขออย่างเดียวที่ ไม่อยากให้ถามคือเรื่องทีมชาติอิตาลี” แอนนา ล่ามส่วนตัวของมาร์โก แวร์รัตติ กองกลางวัย 25 ปีของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บอกกับผมก่อนที่เราจะเริ่มสนทนากัน
แต่ปัญหาคือ นั่นเป็นคำถามที่ผมอยากจะถามแต่แรก เพราะในขณะที่ เพื่อนร่วมทีมเปแอสเช ทุกคน ไปโชว์ผลงานในเวิลด์คัพ แต่เขาต้องนั่งดูอยู่ที่บ้าน ผมอยากรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร
"มันเจ็บปวดเกินไปที่จะพูดถึงน่ะ" แวร์รัตติแทรกขึ้นมา
อิตาลี ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกในรอบ 60 ปี สำหรับแฟนบอลทั่วไปอาจจะมองว่า มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ฮอลแลนด์ก็ไม่ได้ไป ชิลีก็ไม่ได้ไป สหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้ไป
"สำหรับคนอิตาลี มันสำคัญจริงๆ และยิ่งกับตัวนักเตะด้วย มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก และ ถ้าไม่พูดถึงได้ก็จะดีกว่า" แวร์รัตติบอกผ่านล่าม
ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วจึงเปลี่ยนประเด็นไปคุยเรื่องอื่น ต่อให้ไม่ใช่เรื่องฟุตบอลโลก แต่แวร์รัตติคนนี้ ก็มีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจมากจริงๆ
ทริปนี้ สยามสปอร์ต ได้โอกาสเอ็กซ์คลูซีฟ จากไนกี้ ไทยแลนด์ ให้คุยกับแวร์รัตติตัวต่อตัว อยากคุยอะไรก็ได้ อยากถามอะไรก็ได้ 20 นาที
ไนกี้ กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะทำการเปิดตัวเสื้อชุดเยือนตัวใหม่ล่าสุดที่สิงคโปร์ ก่อนลงแข่งเกมไอซีซี ซึ่งชุดเป็นโทนสีขาวทั้งหมด และแวร์รัตติเป็นนายแบบของเราวันนี้
เปแอสเช นำเสนอแวร์รัตติ ด้วยความภาคภูมิใจ แม้เขาจะเป็นคนอิตาเลียน แต่เชื่อหรือไม่ ถ้าไม่นับ อาเดรียง ราบิโอต์ กับ อัลฟอนซ์ อาเรโอล่า ที่เป็นเด็กปั้นสโมสร แวร์รัตติคือคนที่อยู่กับเปแอส มายาวนานที่สุดแล้ว เขามาก่อน ติอาโก้ ซิลวา และ เอดินสัน คาวานี่เสียอีก
"จะว่านานก็นานนะ" แวร์รัตติเผย "ตอนนี้ผมเล่นกับโค้ชมาแล้ว 4 คน อันเชล็อตติ, บล็องค์, อูไน เอเมรี่ และล่าสุด โทมัส ทูเคิล แต่ละคนมีสไตล์ไม่เหมือนกันเลย ผมเปรียบเทียบไม่ได้จริงๆว่าใครดีกว่า แต่เอาเป็นว่า ผมได้สิ่งดีๆ จากทุกคน เพื่อมาพัฒนาตัวเองดีกว่า"
ย้อนกลับไปในปี 2012 เปแอสเช ยื่นข้อเสนอ ซื้อตัว แวร์รัตติ จากสโมสรเปสคาร่า ที่ตอนนั้นกำลังจะเลื่อนชั้นจากเซเรียบี มาสู่ เซเรียอา ท่ามกลางความแปลกใจของหลายๆคน
"ตอนนั้น ผมมียูเวนตุส อินเตอร์ และ เอซี มิลาน สนใจผมด้วยนะ" แวร์รัตติเล่า
แล้วทำไม เลือกเปแอสเชล่ะ? ผมสงสัย ตามหลักนักเตะอิตาลี น่าจะอยากไปทีมใหญ่ในประเทศมากกว่าหรือเปล่า
"เพราะเปแอสเช ยืนยันกับผมว่า ผมจะได้เล่น"
"ตอนนั้นผมอายุ 19 คุณต้องเข้าใจนะ ว่าไปอยู่ยูเวนตุส ที่มีอันเดรีย ปิร์โล่ กับ อาร์ตูโร่ วิดัล ผมนึกไม่ออกว่าตัวเองจะได้โอกาสไหม ซึ่งปารีส รู้ว่าผมต้องการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ เขาสัญญากับผมก่อนที่จะเซ็น และทำตามคำพูดนั้นจริงๆ"
"ตอนเด็กผมชอบอเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ เขาคือไอดอลของผมเลย ทางเลือกยูเวนตุสก็น่าสนใจมาก ก็ใช้เวลาตัดสินใจพอสมควรเหมือนกัน แต่ถึงวันนี้ ก็ไม่เคยเสียใจเลยนะ"
หลังจากย้ายมาอยู่ เปแอสเช ตำแหน่งของแวร์รัตติ ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป จากเคยเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก เขายืนต่ำลงเรื่อยๆ และบางเกมไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ
"โค้ชเห็นว่าผมเหมาะสมจะเล่นเป็นตัวรับ ผมก็เลยขยับลงมายืนต่ำ ตามที่เขาสั่ง ปรากฎว่าผมเล่นได้ดีมาก อาจจะมากกว่ามิดฟิลด์ตัวรุกด้วยซ้ำ จากนั้นมาผมก็เล่นมาเรื่อยๆ"
ปัญหาสำคัญของมิดฟิลด์ตัวรับ นักเตะส่วนใหญ่ จะรูปร่างสูงใหญ่ ผมยกตัวอย่าง ปาทริก วิเอร่า หรือ เซร์คิโอ บุสเกตต์ ที่สูงในระดับ 190 เซ็นติเมตร และพร้อมชนคู่แข่งให้ปลิว ผมสงสัยว่า แวร์รัตติ ที่ส่วนสูง 165 เซ็นติเมตร จะไม่เจอปัญหานี้หรอ?
"คือมันไม่เกี่ยวกับส่วนสูงนะ สาบานได้เลย สิ่งสำคัญที่สุดคือจังหวะต่างหาก"
"คุณไม่จำเป็นต้องใช้ร่างกายไปปะทะตรงๆกับคู่แข่ง ฟุตบอลยุคนี้ พลังสำคัญก็จริง แต่การยืนตำแหน่งที่ถูกต้องต่างหากที่สำคัญกว่า คุณต้องมีเทคนิคการบังบอลที่ดี ใช้ร่างกายตัวเองเป็นโล่ และ มีความฟิตมากพอที่จะวิ่งได้ตลอดเกม"
"ดังนั้น ต่อให้ผมไม่ได้สูงมากๆ ผมก็คิดว่าตัวเองเล่นตำแหน่งนี้ได้นะ เช่นเดียวกัน คนไทยทุกคน แม้ไม่ได้สูงมาก แต่ก็สามารถเล่นได้ดี ถ้ามีจังหวะดีพอ" แวร์รัตติกล่าวแล้วหันมามองแบบยิ้มๆ
จากที่เคยเล่นมิดฟิลด์ตัวรุกสมัยอยู่เปสคาร่า พอมาอยู่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แล้วเปลี่ยนตำแหน่ง ไอดอลของเขาเปลี่ยนคนไหม ผมสงสัย?
"ผมยังศรัทธาเดล ปิเอโร่ อยู่น่ะ แต่ตอนนี้คนที่ผมชื่นชมมากที่สุดคือลูก้า โมดริช"
"จังหวะที่เขาเล่น การเคลื่อนที่ของเขามันเพอร์เฟ็กต์ไปหมด การส่งบอลทุกครั้งมีประสิทธิภาพ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ"
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมสงสัย คือ แวร์รัตติ ไม่เคยเล่นในกัลโช่ เซเรียอาเลย แต่กระโดดจากเซเรีย บี มา ลีกเอิงเฉยเลย เขาคิดว่า มันแปลกไหม มีนักเตะคนไหนที่เหมือนเขาหรือเปล่า
"ผมก็ว่าแปลกนะ (หัวเราะ) ถือเป็นการข้ามขั้นตอนไปเลย ตอนนั้นผมพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้ว เปสคาร่า กับปารีส นี่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆกันนะ ห่างกันเป็นพันกิโลเลย ถ้าอยากไปคือผมต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตทั้งหมด แต่ก็อย่างที่บอก คือโอกาสลงเล่นสำหรับผมสำคัญกว่า"
นอกจากจะเปิดตัวชุดเยือนของปารีส แซงต์ แชร์กแมงแล้ว แวร์รัตติยังเป็นพรีเซ็นเตอร์หลักของไนกี้ กับรองเท้าตัวใหม่ล่าสุดคือ ไนกี้ แฟนธ่อม วิชั่น (FanthomVSN) ซึ่งเขา ใส่มาโปรโมทในวันนี้ด้วย
"ลองรองเท้ามาหลายคู่แล้ว แต่ชอบคู่นี้ที่สุด นี่เป็นรุ่นที่เบามากจริงๆ เวลาจ่ายบอลทำได้ดีมาก คือ รู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายเลย คิดว่าต่อไปรุ่นนี้ จะดังมากแน่ๆ" แวร์รัตติกล่าวชื่นชมสตั๊ดคู่ใหม่ด้วยสีหน้าร่าเริง
หลังจาก ที่คุยกันสักพัก แวร์รัตติ ขอตัว ไปลงเล่นมินิเกม เพื่อโชว์ศักยภาพของรองเท้าคู่ใหม่ ซึ่งการเคลื่อนที่ของเขา ทำได้เยี่ยมจริงๆ และเด่นกว่าทุกคนในสนาม ตำแหน่งของเขาคือยืนมิดฟิลด์ตัวกลาง และคอยป้อนบอลจ่ายบอลให้คนอื่นๆในทีม
แวร์รัตติ มีร่างกายแข็งแรง บอดี้ท่อนบนหนามาก ดังนั้นส่วนสูง 165 เซ็นติเมตรจึงไม่ใช่ปัญหาเลย เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ
ก่อนจะแยกจากกัน ผมมีโอกาสสั้นๆ ถามคำถามสุดท้ายว่า เป้าหมายจากนี้ไปของเขาคืออะไรต่อ
"ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต ตอนได้แชมป์ลีกสมัยแรกกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ถ้าต่อไป ได้แชมป์ยุโรปสักครั้ง ก่อนเลิกเล่นฟุตบอลคงเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็กต์มาก"
"แล้วกับทีมชาติอิตาลีล่ะ" ผมเผลอหลุดพูดไปจนได้
"บอกแล้วไงว่าห้ามถาม!" แวร์รัตติกล่าวปนหัวเราะ (ผ่านล่าม) แล้วเราก็แยกกันตรงนั้นในที่สุด
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย : ทีมงานสยามสปอร์ต
ทั้งนี้ ขอบคุณ โอกาสพิเศษในการคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ จากไนกี้ไทยแลนด์ มา ณ ที่นี้ อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport